บัลลงดอร์ 2019 ดราม่ากว่าละคร
วันนี้ FLKRR.COM จะพาไปเจาะลึกข้อมูลบางอย่าง เช่นระบบของบัลลงดอร์ การโหวต และเหตุว่าทำไมการที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เป็นเต็งหนึ่งมาตลอดสุดท้ายแล้วรางวัลบัลลงดอร์ 2019 ไปตกอยู่ที่ ลิโอเนล เมสซี่
ในงานบัลลงดอร์ 2019 มีประกาศทั้งหมด 4 รางวัล อันดับแรกเลยที่เราอาจไม่คุ้นชินเลยคือรางวัลบัลลงดอร์หญิง นั้นคือ เมแกน ราพิโน (Megan Rapinoe) 230 คะแนน
ในส่วนของรางวัล โกปา โทรฟี่ เป็นรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม นักเตะที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี และปีนี้คนที่ได้ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของบัลลงดอร์ หรือ โกปา โทรฟี่ นั่นก็คือ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ ได้ไป 58 คะแนนอันดับที่ 1 ส่วน อันดับ 2 คือ จาดอน ซานโช จากสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ไป 49 คะแนน และอันดับ 3 คือ ชูเอา เฟลิกซ์ ได้คะแนนไป 41 คะแนน
ส่วนรางวัล ยาชิน โทรฟี่ 2019 ผู้ที่ได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำปีไปนั่นก็คือ อาลิซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) ได้ไป 795 คะแนนนำห่าง ซึ่งอันดับ 2 มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเกิน (บาร์เซโลน่า) ได้คะแนน 284 และอันดับ 3 เอแดร์สัน (แมนซิตี้)
บัลลงดอร์ 2019 ผู้ที่ชนะในปีนี้นั่นคือ ลิโอเนล เมสซี่ นี่คือบัลลงดอร์สมัยที่ 6 ของเขา ได้คะแนนไป 686 คะแนนเฉือน เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ได้ไป 679 คะแนน อันดับ 3 คริสเตียโน โรนัลโด อันดับ 4 ซาดิโอ มาเน่ และอันดับ 5 โมฮาเหม็ด ซาลาห์
หลังจากการประกาศผลก็มีดราม่าเล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติของทุกปีอยู่แล้วเมื่อผลออกมาก็ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ที่ผ่านมาผู้ที่แย่งชิงบัลลงดอร์ก็มีอยู่ 2 คน ก็คือเมสซี่ กับ โรนัลโด
แต่ในปีนี้มีการโหวตจาก 176 ประเทศ คนที่ได้โหวตหากนับเป็นรายประเทศ คนที่มากที่สุดคือ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค 69 ประเทศเทคะแนนไปให้เขา ส่วนอันดับ 2 คือเมสซี่ได้ไป 61 ประเทศ ส่วนอันดับ 3 เท่ากันได้ไป 17 ประเทศคือมาเน่ กับ โรนัลโด แต่ถึงแม้ว่าฟานไดจ์คจะได้คะแนนลำดับที่ 1 มากกว่า แต่ผลรวมที่ออกมาก็ยังต้องแพ้ให้กับนักเตะหน้าเก่าอย่างเมสซี่อยู่ดี มาดูสถิติของเมสซี่ในปี 2019 กันดีกว่า
54 เกมของเมสซี่ ไม่ว่าจะเป็นเล่นให้กับสโมสรหรือทีมชาติ เมสซี่ ยิงไปทั้งหมด 46 ประตู และทำไปอีก 17 แอสซิสต์ โดยในปีที่ผ่านมาเมสซี่ยังทำสถิติเป็นนักเตะที่ชนะเกมลาลีกาได้มากที่สุด 346 นัด และถึงแม้ว่าจะตกรอบยูฟ่าแชมป์เปียนลีกที่แพ้ลิเวอร์พูลแต่เมสซี่ก็จบด้วยการเป็นดาวซัลโวของยูฟ่าแชมป์เปียนลีก 2019 คว้าแชมป์ลาลีกาเป็นสมัยที่ 10 และได้ถ้วยที่ 34 ในชีวิต จบฤดูกาลด้วยการคว้าดาวซัลโวของสเปนเป็นครั้งที่ 6 ให้กับตัวเอง และที่โหดที่สุดก็คือ คว้าตำแหน่งรองเท้าทองคำ หรือ ดาวซัลโวประจำทวีป นี่ก็คือความเหมาะสมของเมสซี่ที่คู่ควรกับบัลลงดอร์ ไม่ได้แปลว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไม่เก่ง แต่เขาคนนี้มาพร้อมกับบารมีที่สั่งสมมาอย่างยาวนานจริงๆ